กอริลลาเทร็ก ยูกันดา - รวันดา
ทัวร์
แอฟริกา
ระยะเวลา
9 วัน
สายการบิน
วันเดินทาง
5-13 กรกฎาคม 2563
Hilight

ทัวร์แอฟริกาแกะรอยทัวร์ฝูงกอริลล่าแห่งป่าแอฟริกาตะวันออกไปกับโกลบอล ฮอลิเดย์  ขอนำทุกท่านท่องเที่ยวในทวีปแอฟริกาตะวันออกไปพบประสบการณ์ใหม่ๆที่ต้องสัมผัสให้ได้สักครั้ง
ยูกันดา (Uganda) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐยูกันดา (Republic of Uganda) เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออก ยูกันดาได้ชื่อมาจากอาณาจักรบูกันดา หรือชาวบูกันด้าที่เป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่มากที่สุดในแถบแอฟริกาตะวันออก ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมทางใต้ของประเทศ มีกล้วยเป็นอาหารหลัก มีไร่ชากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ในกรุงกัมปาลา เมืองหลวงที่มีขนาดใหญ่สุด มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นสุด และที่ขาดไม่ได้คือมีวินมอเตอร์ไซด์ (โบดา โบด้า) มากมาย เพราะมีการจราจรหนาแน่นเหมือนบ้านเรา  
รวันดา (Rwanda) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐรวันดา (Republic of Rwanda) รวันดามีลักษณะทางภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ได้สมญานามจากเบลเยียม เจ้าอาณานิคมเก่าว่าเป็น ดินแดนแห่งเขาพันลูก รวันดายังถือเป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในแอฟริกาส่วนภูมิภาค (ไม่นับเกาะเล็กๆ) เหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดของประเทศรวันดาในระดับสากล คือเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวทุตซีในปี พ.ศ. 2537 (1994)
 ซึ่งส่งผลให้ประชากรเกือบล้านคนต้องเสียชีวิตไป อันมีผลพวงมาจากการสร้างกฎเกณฑ์
 แบ่งแยกของผู้ล่าอาณานิคม...


แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    1) วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ
    • 22.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ W สายการบินเคนย่า แอร์เวย์ (Kenya Airways // KQ) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน 
  • Day 2
    2) วันที่สอง กรุงเทพฯ - ไนโรบี - เอ็นเทบเบ - กัมปาลา (L/D)
    • 01.20 น. เหินฟ้าสู่ กรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เที่ยวบิน KQ887 (0120-0610) 
      (ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง 50 นาที) (บริการอาหารบนเครื่องบิน)
      06.10 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติโจโม เคนยัตตา ประเทศเคนย่า แล้วรอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง เมืองเอ็นเทบเบ 
      08.30 น. เหินฟ้าสู่ เมืองเอ็นเทบเบ ประเทศยูกันดา โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เที่ยวบิน KQ420 (0830-0950) 
      (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 20 นาที) (บริการอาหารว่างบนเครื่องบิน)
      09.50 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติเอ็นเทบเบ ประเทศยูกันดา หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว แลกเงินสกุลท้องถิ่น พบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นตามเวลานัดหมาย นำท่านเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ กรุงกัมปาลา เมืองหลวงของประเทศยูกันดา ในอดีตบริเวณแถบนี้คือสนามล่าสัตว์ป่าของกษัตริย์ เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ประเภทกวางอิมพาลา ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาล้อมรอบ เมื่ออังกฤษเข้ามาในยุคล่าอาณานิคมจึงเรียกบริเวณนี้ว่า เนินแห่งอิมพาลา กรุงกัมปาลาเติบโตขึ้นมาจากอาณาจักรบูกันดา อนุสรณ์สถานหลายแห่งในยุคอาณาจักรบูกันดายังคงปรากฎให้เห็น อาทิ สุสานคาซูบิ (Kasubi Tombs) อดีตพระราชวังของกษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรบูกันดาที่สร้างในปี ค.ศ.1881 
      ผ่านชม  พระราชวังลูบิริ (Lubiri Palace) ซึ่งกษัตริย์องค์ปัจจุบันไม่ได้ประทับอยู่แล้ว อาคารรัฐสภา อาคารศาลปกครอง สิ่งก่อสร้างบางส่วนถูกทำลายในสมัยสงครามแทนซาเนีย และถูกสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงอาคาร ร้านค้า โรงแรม และธนาคาร สิ่งก่อสร้างต่างๆในกัมปาลาวางตั้งกระจายอยู่ตามเนินเขาต่างๆ กรุงกัมปาลา จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเจ็ดเนินเขา (City of seven hills) 
      นำท่านชม โบสถ์รูบาก้า (Rubaga Cathedral) เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกสวยงามซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวกรุงกัมปาลาอย่างชัดเจน เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของยูกันดา เนื่องจากถูกสร้างเพื่ออุทิศให้แก่เหล่าวีรชนในอดีตที่ถูกสังหารหมู่โดยการเผาทั้งเป็น
      นำท่านชม สุสานฝังพระศพของกษัตริย์ราชวงศ์บูกันดา (Kasubi Tombs) เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1881 เดิมทีสร้างเพื่อใช้เป็นพระราชวังของกษัตริย์มูเทซาที่ 1 แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสุสานของพระองค์ รวมทั้งกษัตริย์องค์ต่อๆมา โครงสร้างเป็นวงกลมหลังคามุงด้วยฟาง เป็นสถานที่สำคัญทางจิตวิญญาณของชาวยูกันดา องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2001 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      นำท่านชม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติยูกันดา (Uganda Museum) เป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงเกี่ยวกับชาติพันธุ์ ธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์ และประเพณีวิถีซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศยูกันดา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1908 โดยถูกย้ายมาอยู่ ณ ตำแหน่งที่ 
      ตั้งปัจจุบันในปี ค.ศ.1942 ภายในพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจัดแสดงเครื่องดนตรี อุปกรณ์การล่าสัตว์ อาวุธโบราณ กีฏวิทยา (แมลง) ส่วนภายนอกจัดแสดงบ้านจำลองของชนเผ่าต่างๆในอาณาจักรบูกันดา นอกจากนี้มีส่วนจัดแสดงรถยนต์ที่อดีตบุคคลสำคัญๆเคยใช้ เช่น อดีตประธานาธิบดีอี้ อามิน เป็นต้น
      นำท่านสำรวจชม ตลาดของที่ระลึก (Craft Market) ซึ่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง อาทิ เครื่องจักสาน ตะกร้า กระบุง งานไม้แกะสลัก เป็นรูปสัตว์ หรือภาชนะไว้ใส่ของ เสื้อผ้าทอพื้นเมือง ภาพวาด เป็นต้น อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
      เย็น รับประทานอาหารเย็น
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก FAIRWAY HOTEL & SPA หรือเทียบเท่า   
  • Day 3
    3) วันที่สาม กัมปาลา - มิตยานา - มูเบนเด้ - ฟอร์ทพอร์ทอล (Fort Portal) - กิบาเล (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      วันนี้คณะออกเดินทางไกลมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกสู่ เมืองฟอร์ทพอร์ทอล (Fort Portal) (มีระยะทางราว 300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง) ระหว่างทาง รถจะแล่นผ่านเมือง มิตยานา (Mityana) และ เมือง มูเบนเต้ (Mubende) เมืองที่เป็นแหล่งเพาะปลูกกล้วยอันเป็นอาหารหลักของชาวยูกันดา ไม่ว่าจะทำอาหารคาวหวานก็ประกอบไปด้วยกล้วยทั้งสิ้น อาทิเช่น กล้วยต้ม กล้วยนึ่ง กล้วยบด โยเกิร์ตกล้วย นมกล้วย แทบถือเป็นเมนูอาหารหลักของมื้อเช้าของโรงแรมแทบทุกแห่ง (จากการสำรวจตลาดยังไม่เห็นกล้วยทอด กล้วยตาก กล้วยเบรคแตก กล้วยเชื่อม เหมือนบ้านเรา) นอกจากนั้น ระหว่างทาง ท่านจะได้เห็นไร่ชามากมายซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกกันมากในประเทศนี้
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย นำท่านชม ทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ (Crater Lake) ณ ฟอร์ทพอทอล ซึ่งท่านจะต้องเดินไต่เขาขึ้นไปด้านบนสำหรับการเก็บภาพทะเลสาบและชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่รายล้อมโดยเฉพาะภูเขารเว็นโซริ ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่น (Rwenzori Mountain) อันเป็นพรมแดนปราการธรรมชาติกั้นระหว่างยูกันดากับคองโก
      ได้เวลาพอสมควร เดินเท้าแวะชม หมู่บ้านชาวเผ่าท้องถิ่น (Local Village) เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของชนเผ่า ซึ่งท่านจะได้เรียนรู้และเข้าใจในวิถีการดำรงชีพของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง (กิจกรรมรอบบ่ายนี้ใช้เวลาทำทัวร์ประมาณ 3 ชั่วโมง) 
      แล้วเดินทางต่อเข้าสู่โรงแรมที่พัก ในบริเวณใกล้กับอุทยานแห่งชาติกิบาเล เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ท่ามกลางธรรมชาติที่แวดล้อมไปด้วยป่าเขียวชอุ่ม 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก ISUNGA LODGE  หรือเทียบเท่า   
  • Day 4
    4) วันที่สี่ อุทยานแห่งชาติกิบาเล - ชิมแปนซีเทรค - อุทยานแห่งชาติควีนอลิซาเบธ (B/L/D)

    • 06.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      07.30 น. กิจกรรมช่วงเช้าในวันนี้ (โปรดแต่งกายทะมัดทะแมง) ไกด์ท้องถิ่นจะนำท่านเดินทางออกจากโรงแรม เพื่อไปทำกิจกรรมเดินป่าตามรอยลิงชิมแปนซี ณ อุทยานแห่งชาติกิบาเล (Kibale Forest National Park) เป็นเขตป่าฝนแถบศูนย์สูตรที่มีจำนวนสายพันธุ์ของลิงชนิดต่างๆมากที่สุดในโลกกว่า 13 ชนิด บนพื้นที่กว่า 795 ตารางกิโลเมตร โดยเฉพาะลิงชิมแปนซีที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์บนผืนป่าแห่งนี้ การเดินป่าตามลิงชิมแปนซีนั้นจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อุทยานผู้นำทางอย่างเคร่งครัดเท่านั้น 
      ระยะเวลาและระยะทางการเดินทั้งหมดขึ้นกับการตามแกะรอยลิงชิมแปนซีกลุ่มที่ทางอุทยานได้ทำให้คุ้นเคยกับการเฝ้าติดตามจากนักท่องเที่ยว ซึ่งลิงเหล่านี้จะเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ ในแต่ละวัน (โดยปกติอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง) ลิงชิมแปนซี (Chimpanzee) เป็นลิงไม่มีหางที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด มีแขนและขาซึ่งมีความยาวพอๆกัน มีขนโดยเฉพาะที่หู มือ และเท้าสีเนื้อ ลูกที่เกิดใหม่จะมีใบหน้าสีชมพู โดยลิงตัวผู้สูงราว 5 ฟุตและมีน้ำหนักประมาณ 65 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียสูงราว 4 ฟุต ทำรังอยู่บนพื้นดินด้วยการโน้มกิ่งไม้ขัดทำเป็นที่นอน เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุ 7-9 ปี ติดสัดทุกๆ 33-38 วัน ระยะเวลาในการผสมพันธุ์จะนาน 3 วัน ไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน ตั้งท้องนานประมาณ 230 วัน ลูกจะอยู่กับแม่นาน 1-2 ปี สูงสุดถึง 7 ปี และมีอายุขัยประมาณ 40 ปี ตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์จะผสมพันธุ์กับตัวผู้หลายตัว จึงยากที่จะบ่งบอกได้ว่า ลูกที่เกิดมานั้นมาจากลิงตัวผู้ตัวไหน ลิงชิมแปนซีมักกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกาแถบบริเวณแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก อาศัยอยู่รวมกันเป็นครอบครัว มีความสัมพันธ์กันแบบเครือญาติ โดยมีจ่าฝูงเป็นตัวผู้เพียงตัวเดียว หากินบนพื้นดินมากกว่าต้นไม้ โดยหากินในเวลากลางวัน ซึ่งกินอาหาร ได้แก่ ผลไม้และใบไม้ต่างๆ รวมถึงสัตว์ขนาดเล็กต่างๆ เช่น แมลง เป็นต้น ชิมแปนซีมีพฤติกรรมชอบประดิษฐ์เครื่องมือต่างๆ ในการหาอาหารเช่นเดียวกับมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ชิมแปนซีมีเสียงร้องที่หลากหลาย จากการศึกษาพบว่าร้องได้ถึง 32 แบบ โดยถือเป็นภาษาสำหรับการสื่อสารระหว่างกัน สามารถเดินตรงได้แต่นิ้วเท้าจะหันไปข้างนอก เวลาเดินตัวจะเอนไปข้างหน้า แขนตรง และวางข้อมือลงบนพื้น นานๆครั้งจะเดินสองเท้าแบบมนุษย์ ซึ่งในการเดินแบบนี้ ชิมแปนซีจะเอามือไว้ข้างหลังเพื่อช่วยในการทรงตัว หรือชูมือทั้งสองข้างขึ้นสูง ลิงชิมแปนซีมีความจำดีมาก มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ มีความฉลาดกว่าอุรังอุตังและกอริลล่า ซึ่งเป็นลิงไม่มีหางเช่นเดียวกัน  สถาบันวิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งมหาวิทยาลัยเกียวโตของญี่ปุ่นระบุว่า ลูกชิมแปนซีมีความจำดีกว่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่เสียอีก 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย ออกเดินทางสู่ เขตอุทยานแห่งชาติควีนอลิซาเบธ (Queen Elizabeth National Park) (มีระยะทางราว 110 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง) ระหว่างทาง นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สัญลักษณ์เส้นศูนย์สูตร (Equator Line) ก่อนจะเดินทางถึงเขตอุทยานฯ  
      แล้วเดินทางต่อเข้าสู่โรงแรมที่พัก ในบริเวณใกล้กับอุทยานแห่งชาติควีนอลิซาเบธ เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย ท่ามกลางธรรมชาติที่แวดล้อม ใกล้กับทะเลสาบเอ็ดเวิร์ด (Lake Edward) ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบสวยงามยิ่ง  
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก MWEYA SAFARI LODGE หรือเทียบเท่า   
  • Day 5
    5) วันที่ห้า อุทยานแห่งชาติควีนอลิซาเบธ - ซาฟารีเกมไดร์ฟ - ล่องเรือในคาซิงกา (B/L/D)

    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม 
      กิจกรรมช่วงเช้าคือเกมไดร์ฟ นำท่านเดินทางเข้าสู่เขตทุ่งหญ้าสะวันนาที่มีชื่อว่า Kasenyi Plains คือระบบนิเวศทุ่งหญ้าในเขตร้อนโดยพบมากในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรเช่นทวีปแอฟริกาตะวันตก  ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้า มีต้นไม้ขึ้นห่างกันออกไป ต้นไม้ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ปรับตัวได้ดีและกักเก็บน้ำไว้ได้ จึงจะทนอยู่ในสภาพอากาศร้อนได้ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาท่องเที่ยวทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งนี้เพราะมีธรรมชาติสวย งามและมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหลากหลายให้ได้ชม เช่น นกชนิดต่างๆ ละมั่ง สิงโต เสือดาว ควายป่า ฯลฯ  
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำท่านไปยังบริเวณจุดขึ้นเรือ ณ Mweya เพื่อล่องเรือชมสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในน้ำและริมฝั่ง ร่องน้ำคาซิงกา
      (Kazinga Channel)  อาทิเช่น จระเข้ ฮิปโปโปเตมัส ช้างป่า วิลเดอบีสต์ และควายป่า ซึ่งบรรดาสัตว์เหล่านี้มีพฤติกรรมออกมาหากินและดื่มน้ำดับกระหายบริเวณริมฝั่งร่องน้ำ เป็นต้น ร่องน้ำคาซิงกา เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุทยานแห่งชาติควีนอลิซาเบธ คือช่องแคบทางน้ำที่ยาวกว่า 40 กิโลเมตร เชื่อมทะเลสาบจอร์จและทะเลสาบเอ็ดเวิร์ดเข้าไว้ด้วยกัน (กิจกรรมนี้ใช้เวลาทำทัวร์ราว 3 ชั่วโมง) 
      เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก เพื่อพักผ่อนอย่างอิสระตามอัธยาศัย
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก MWEYA SAFARI LODGE หรือเทียบเท่า   
  • Day 6
    6) วันที่หก อุทยานแห่งชาติควีนอลิซาเบธ - อิชาชา - อุทยานแห่งชาติบวินดี (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม 
      นำท่านเดินทางไปยัง เขตอิชาชา (Ishasha) เพื่อไปยังแหล่งที่มี สิงโตปีนต้นไม้ (Tree Climbing Lions) ยูกันดาไม่ได้เป็นเพียงที่รู้จักกันสำหรับกอริลล่าภูเขาและลิงชิมแปนซีเท่านั้น แต่ยูกันดายังเป็นแหล่งสถานที่ที่ดีที่สุดเพื่อดู “ สิงโตที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ ” ในทวีปแอฟริกา เขตอิชาชาอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติ ควีนอลิซาเบธ  มันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจต่อทุกสายตาที่เห็นสิงโตสัตว์เจ้าป่าคู่บารมีเหล่านี้อยู่บนต้นไม้ในระหว่างวัน 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      ออกเดินทางต่อไปยัง เมืองคีโซโล (Kisoro) เมืองทางตอนใต้ของยูกันดา คีโซโลเป็นเมืองเล็กๆแต่สำคัญ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ เขตอุทยานแห่งชาติบวินดี (Bwindi National Park) และอุทยานแห่งชาติมากาฮิงก้า (Mgahinga National Park) ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของกอริลล่าภูเขา (Mountain Gorilla) ซึ่งในโลกของเรามีเหลือเฉพาะพื้นที่ในเขตนี้เท่านั้น ไม่สามารถหาดูได้ที่อื่น (ยกเว้นที่ถูกจับขังอยู่ในกรงตามสวนสัตว์)   
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก GORILLA SAFARI LODGE หรือเทียบเท่า 
  • Day 7
    7) วันที่เจ็ด อุทยานแห่งชาติบวินดี - กอริลล่าเทรค - ทะเลสาบมูทันดา (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      วันนี้แนะนำให้แต่งตัวให้ทะมัดทะแมง เตรียมพร้อมสำหรับการเดินตามแกะรอยฝูงกอริลล่าภูเขา (Gorilla Trekking) ลิงยักษ์ตัวใหญ่ที่มีจิตใจอ่อนโยน ใจดี เราจะนำท่านสัมผัสประสบการณ์ที่ตื่นเต้นกับการเดินในป่าเขียวชอุ่ม ตามหาเจ้าหลังเงินยักษ์หรือกอริลล่าหนุ่มที่อยู่กันเป็นฝูง โดยการเดินเข้าป่าตามหาพวกเขา จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของอุทยานในการนำทาง รวมทั้งมีกลุ่มแรนเจอร์ที่ถูกส่งเป็นทีมล่วงหน้าเพื่อตามเช็คแกะรอยตำแหน่งการเคลื่อนฝูงของเจ้าลิงยักษ์ในแต่ละวัน ซึ่งในการเดินต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำเช่นเดียวกับการดูลิงชิมแปนซี เช่น ระยะห่างในการดูควรจะอยู่ประมาณ 7 เมตร และเมื่อ
      เผชิญหน้ากับลิงกอริลล่าให้หยุดอยู่นิ่งและค่อยๆย่อตัวนั่งลง โดยไม่ควรสบตากับเขา เพราะเขาอาจเข้าใจว่าเราท้าทายเขา อย่างไรก็ตาม ลิงกอริลล่า (Gorilla) จัดอยู่ใน ไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata) สัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นย่อยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (Mammalia) เป็นลิงไม่มีหาง เป็นไพรเมต (Order Primate)ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ตัวสูงขนาดประมาณคนแต่ล่ำสันและแข็งแรงกว่ามาก มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา บางตัวอยู่บนภูเขาแต่บางตัวก็อยู่ตามที่ราบต่ำลงมา ลิงกอริลล่าเป็นสัตว์กินพืชเป็นอาหาร มักชอบกินจำพวกหน่อไม้ พืชผัก ผลไม้ ใบไม้ที่ขึ้นตามป่า ลิงหนุ่มจะถูกเรียกว่า "เจ้าหลังเงิน" เพราะจะมีขนสีเทาเงินที่หลัง เวลาขู่คำรามจะยืนตรงและใช้สองมือทุบหน้าอก จ่าฝูงก็มักจะเป็นเจ้าหลังเงินที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่ม (การเดินป่าอาจมีความลาดชันพอควร ควรใส่รองเท้าที่ยึดเกาะพื้นได้ดี ระยะเวลาที่ใช้เดินแกะรอยจะอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฝูงกอริลล่าอยู่ในวันนั้นๆ)
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน แบบปิกนิกในป่า
      บ่าย เดินทางต่อสู่โรงแรมที่พัก ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณแหลมริม ทะเลสาบมูทันดา (Lake Mutanda) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่ในเขตคีโซโล ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศยูกันดา ทะเลสาบแห่งนี้ ตั้งอยู่ในบริเวณตีนเขาของแนวเทือกภูเขาไฟวิรุงกา (Virunga Mountain Ranges) ทำให้ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้โดยรอบ          
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก MUTANDA LAKE RESORT หรือเทียบเท่า   

  • Day 8
    8) วันที่แปด ทะเลสาบมูลันดา (ยูกันดา) - รวันดา - คิกาลี (รวันดา) (B/L)

    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      ออกเดินทางข้ามพรมแดนสู่ เมืองหลวงคิกาลี ประเทศรวันดา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศยูกันดา (ระยะทางราว 145 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) นำท่านข้ามแดนและผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรวันดา ในอดีตดินแดนรวันดาเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าฮูตู (Hutu) ซึ่งดำรงชีพโดยการทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ หลังจากนั้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 พวกชนเผ่าทุสซี่ (Tutsi) เริ่มอพยพเข้ามาในดินแดนแถบนี้ และเริ่มเข้ามามีบทบาทควบคุมระบบการเมือง การปกครอง และการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 19 กษัตริย์ของชนเผ่าทุสซี่ ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีเพียงร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมด ได้ครอบครองดินแดนแถบนี้ไว้ได้ทั้งหมด รวันดาถือเป็นประเทศยากจนจัดอยู่ในกลุ่ม HIPC (Heavily Indebted Poor Countries) ไม่มีทางออกทะเล ทรัพยากรธรรมชาติน้อย มีอัตราความหนาแน่นของประชากรสูงสุดในแอฟริกา โดยเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับเกษตรกรรม ประชากรร้อยละ 90 อยู่ในภาคการเกษตร การส่งออกกาแฟและชาเป็นรายได้สำคัญของประเทศ แต่รายได้ขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาในตลาดโลก รวันดามีอุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกและวุลแฟรม มีการค้นพบก๊าซธรรมชาติประมาณ 57,000 ล้านลูกบาศก์เมตรบริเวณใต้ทะเลสาบคีวู (Kivu Lake) นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญ คือ การสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำร่วม กับแทนซาเนียบนปากแม่น้ำรูซูโม (Rusumo River) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาลุ่มน้ำ Kagera  รวันดามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุดกับแอฟริกาใต้ เพราะแอฟริกาใต้เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจด้านการบริการ ด้านโทรคมนาคม การบิน และการท่องเที่ยว ปัจจุบันรวันดาเป็นประเทศหนึ่งในแอฟริกาที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุด เพราะได้รับความช่วยเหลือจากประชาคมโลกในการฟื้นฟูประเทศ หลังจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประกอบกับความมั่นคงทางด้านการเมืองที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
      คิกาลี (Kigali) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรวันดา มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน โดยทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตศูนย์กลางของประเทศ เมืองยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจวัฒนธรรมและการขนส่งของประเทศรวันดา ทั้งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางราชการและสำนักงานของประธานาธิบดีรวันดา ประชากรของเมืองเป็นชาวฮูตู 84% ชาวทุสซี่ 15% กรุงคิกาลีก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1907 ภายใต้การปกครองอาณานิคมเยอรมัน แต่ไม่ได้เป็นเมืองหลวง (เมืองหลวงเดิมคือ เมืองฮูเย หรือบูทาเร่ ในปัจจุบัน) จนกระทั่งรวันดาได้รับอิสรภาพ ในปี ค.ศ.1962 จึงได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเมืองหลวง 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      นำท่านชม ศูนย์อนุสรณ์ระลึกเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คิกาลี (Kigali Memorial Center) ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือร่วมกันของสภาเทศบาลเมืองคิกาลี และกองทุน AEGIS TRUST แห่งสหราชอาณาจักร  ภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดา และชั้นบนจะเป็นการแสดงนิทรรศการของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆทั่วโลก นอกจากนี้ ภายนอกอาคารของสถานที่แห่งนี้ ยังเป็นสวนและหลุมฝังกระดูกเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่จากไปซึ่งเป็นเหยื่อของสงครามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในปี ค.ศ. 1994นำท่านชม โรงแรมเด มิล คอลลิน (Hotel des Mille Collins) โรงแรมที่เคยเกิดเหตุการณ์การช่วยเหลือผู้
      ประสบภัยหนีการถูกฆ่าเข้ามาหลบภัยโดยการให้ความช่วยเหลือจากผู้จัดการของโรงแรม ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ได้ถูกถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ภายใต้ชื่อเรื่อง โฮเตล รวันดา (Hotel Rwanda) 
      17.00 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติคิกาลี เตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ กลับสู่ประเทศไทย
      19.25 น. เหินฟ้าสู่ กรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เที่ยวบิน KQ475 (1925-2155) 
      (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 30 นาที) (บริการอาหารว่างบนเครื่องบิน)
      21.55 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติโจโม เคนยัตตา ประเทศเคนย่า แล้วรอเปลี่ยนเครื่อง 
      23.59 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินเคนย่า แอร์เวย์ เที่ยวบิน KQ886 (2359-1330+1) 
      (ใช้เวลาบิน 9 ชั่วโมง 31 นาที) (บริการอาหารบนเครื่องบิน)
  • Day 9
    9) วันที่เก้า สนามบินสุวรรณภูมิ
    • 13.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ 
      ***************
Top